ความดันหรือความดันโลหิตสูง หรือความดันเลือดสูง


เมื่อได้ยินคำนี้ หลายๆคนมักจะคุ้นเคยเพราะเป็นโรคที่พบเจอมาในคนที่อายุมากขึ้น จนถึงวัยชรา พบเจอเป็นส่วนมากกับเพศชาย คนที่ร่างกายที่อ้วน หรือแม้แต่คนปกติ ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ 
ความดันโลหิตสูง เป็นสาเหตุสำคัญของหลายๆ โรคอันตรายที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคไต โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคอื่นๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่อันตรายจนถึงชีวิตได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตามความดันโลหิตสามารถตรวจพบได้ง่ายๆ จากการวัดความดันเมื่อเราเข้ารับการตรวจร่างกาย หรือตรวจสุขภาพประจำปี ดังนั้นหากเราให้ความสำคัญกับความดันโลหิตอยู่เสมอ ก็อาจจะช่วยป้องกันเราจากโรคอันตรายเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที โดยปกติความดันคนเราจะขึ้นลงได้ตามอารมณ์ และสภาพร่างกาย ถ้าเป็นคนอ้วนอาจจะมีความดันที่สูงที่มากขึ้นตามขนาดร่างกาย

ความดันหรือความดันโลหิตสูง หรือความดันเลือดสูงเป็นอย่างไร
ความดันโลหิต ประกอบด้วยค่าตัวเลข จำนวน 2 ค่า ดังนี้
ค่าบน เป็นความดันช่วงหัวใจบีบ
ค่าล่าง เป็นความดันช่วงหัวใจคลายตัวค่าความดันโลหิตที่เหมาะสม คือ ค่าบนไม่เกิน 120 และค่าล่างไม่เกิน 80
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีความดันอยู่ที่ 130/80 ขึ้นไป แสดงว่าอยู่ในเกณฑ์ความดันโลหิตสูงเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอาจจะถึงเวลาที่ต้องไปพบแพทย์
หากความดันโลหิตสูงไม่เกิน 10 มิลลิเมตรปรอท จากค่าปกติ เช่น 130/90 ส่วนใหญ่แพทย์ อาจแนะนำให้กลับไปปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน จะยังไม่ถึงกับให้เข้ารับการรักษาอย่างเป็นทางการ เว้นแต่จะมีอาการที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างชัดเจน

อาการของความดันโลหิตสูง
โรคความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่ไม่ค่อยแสดงอาการผิดปกติ ยกเว้นในผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงระยะรุนแรงก็อาจมีอาการแสดง เช่น ปวดศีรษะรุนแรง หายใจสั้น เลือดกำเดาไหล ซึ่งอาการเหล่านี้ยังถือว่าเป็นอาการที่ไม่เฉพาะเจาะจงและบอกไม่ได้ชัดเจน หรือในบางรายทราบเมื่อตรวจพบภาวะแทรกซ้อนจากโรคความดันโลหิตสูงขึ้นแล้ว ทำให้ต้องหมั่นมีการตรวจสุขภาพและวัดค่าความดันอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้โรคนี้ถูกเรียกว่าเป็นฆาตกรเงียบ (Silent Killer) ที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้อย่างไม่ทันระวังตัว

สำหรับอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบนั้นจะแสดงออกในลักษณะของการแน่นหน้าอก มักเกิดอาการแน่นตรงกลางหน้าอกในช่วงที่ออกกำลังกายหรือทำงานหนัก โดยเมื่อหยุดออกกำลังกายหรือหยุดทำงานหนักไม่กี่นาที อาการปวดก็จะหายไป สำหรับอาการแน่นหน้าอกนั้น จะมีความรู้สึกเหมือนมีสิ่งของที่มีน้ำหนักมาทับจนทำให้เกิดอาการแน่นและแสบตามไปด้วย มีอาการปวดร้าวในบริเวณอื่น เช่น ปวดในบริเวณแขนซ้าย กราม หลัง ลิ้นปี่ และคอ อีกทั้งยังมักมีอาการหายใจคล้ายเป็นโรคหอบ มีอาการคลื่นไส้ เป็นลม มือเท้าเย็นผิดปกติ และเหงื่อออกเป็นจำนวนมาก